ภูเก็ต
ไข่มุกอันดามัน สวรรค์ เมืองใต้ เมืองท่องเที่ยว หลากสีสันระดับอินเตอร์สำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลหาดทรายขาว น้ำทะเลใส แสงแดดจัดแจ่ม และความสะดวกสบายทั้งด้านการเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก บริษัทนำเที่ยว การแสดงอันเต็มไปด้วยสีสัน ฯลฯ ย่อมไม่มีใครไม่นึกถึงภูเก็ต เกาะขนาดใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศพื้นที่ประมาณ 543 ตร.กม. ของเกาะนี้โอบล้อมด้วยน้ำทะเลสีเขียวมรกตและมีหาดทรายขาวเนียน เหมาะแก่การพักผอ่น รวมทั้งยังเอื้อต่อการทำกิจกรรมสนุกในทะเลและริมทะเลอีกด้วย
ความโดด เด่นของชายทะเลและกล่มเกาะในภูเก็ตเกิดจากภูมิประเทศที่เป็นชายฝั่งทะเลลด ตัว พื้นที่ส่วนที่ต่ำจะจมอยู่ใต้น้ำ ปรากฎเฉพาะยอดสูงเหลี่ยมล้ำเหนือผิวทะเลเป็นกลุ่มเกาะน่าเที่ยว สำหรับตัวเกาะใหญ่คือภูเก็ต นั้น ทางฝั่งตะวันตกมีลักษณ์เป็นอ่าวเว้าแหว่ง และปูลาดด้วยเม็ดทรายละเอียด เช่น หาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน เป็นต้น ส่วนทางด้านตะวันออกส่วนใหญ่เป็นป่าชายเลนและหาดโคลน ขณะที่บริเวณทิศใต้มีแนวปะการังสวยงาม นอกจากตัวเกาะใหญ่แล้ว เกาะเล็กเกาะน้อยที่ตั้งอยู่รอบๆ ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรมองข้ามเพราะมีหาดทรายขาว น้ำทะเลใสเช่นเกาะราชา เกาะเฮ เกาะมะพร้าวเป็นต้น
ไม่เพียงเพราะภูมิประเทศงดงามทำให้ภูเก็ตเติบโตเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ที่นี้ยังเต็มเปี่ยมด้วยเรื่องราวทางวัฒนธรรมที่สั่งสมหล่อหลอมอยู่ในวิถีชีวิตของผู้คน บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองอันยาวนานนับแต่ยุคต้นคริสตกาล ภูเก็ตซึ่งขณะนั้นมีชื่อว่า "ถลาง" เป็นเกาะที่นักเดินเรือ ซึ่งเดินทางระหว่างจีนและอินเดียรู้จักในนาม "จังซีลอน" เป็นทั้งท่าเรือและศูนย์กลางการค้า โดยมีสินค้าเด่นคือแร่ดีบุก เป็นสินทรัพย์ในดินที่สร้างรายได้ให้เมืองสืบต่อมาเนิ่นนาน ล่วงมาสมัยรัชกาลที่ 1 ก็เกิดเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ขึ้น เมื่อพม่ายกทัพมาตีเมืองถลางขณะนั้นเจ้าเมืองเพิ่งถึงแก่อนิจกรรม คุณหญิงจันผู้เป็นภรรยา และคุณมุกน้องสาว จึงร่วมกันนำกำลังผู้คนรับมือกับการตีเมืองของพม่าด้วยแผนการอันแยบยล จนพม่าถอยทัพกลับไปเพระความกล้าหาญและคุณงามความดีนี้
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชจึงพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้คุณหญิง จันเป็นท่านท้าวเทพกระษัตรีและคุณมุกเป็นท้าวศรีสุนทรปรากฎนามกระเดื่องใน ฐานวีรสตรีไทยมาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อบ้านเมืองสงบ บรรยากาศของการค้าขายก็กลับมาคึกคัก โดยเฉพาะในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อความต้องการแร่ดีบุกของตลาดโลกเพิ่มขึ้นจนแรงงานขุดแร่ไม่เพียงพอ ถึงขนาดต้องรับคนจีนที่ทำเหมืองแร่อยู่ในปีนังและสิงคโปร์มาเป็นคนงาน ยุคนั้นเองที่ชาวจีนฮกเกี้ยนได้เข้ามาตั้งรกรากในภูเก็ต มีการสร้างที่อยู่อาศัยในรูปแบบสถาปัตยกรรมโคโลเนียลและตกแต่งรายละเอียด ด้วยศิลปะจีนอันเป็นเอกลัษณ์ของภูเก็ตเช่นที่เห็นทุกวันนี้ มาเยือนภูเก็ต แล้วคุณจะรู้ว่าเกาะแห่งนี้เต็มเปี่ยมด้วยคุณค่า ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ความเป็นมาและทรัพยากรธรรมชาติที่มากมาย ทั้งบนดินและใต้น้ำรวมถึงแหล่งท่องเที่ยวสารพันที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี
จุดชมวิวสามอ่าว (Karon View point) เป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนเนินเขาทางฝั่งตะวักตก เมื่อมาถึงภูเก็ตแล้วไม่ควรพลาดมาจุดชมวิวนี้ด้วยประการทั้งปวง จากจุดชมวิวนี้สามารถมองเห็นวิวหาดกะตะน้อย กะตะ กะรน เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เกาะปู และเห็นแนวภูเขาได้อย่างชัดเจน เห็นการไล่โทนสีของน้ำทะเลตั้งแต่เขียวอ่อนบริเวณใกล้ชายหาด และเป็นสีน้ำเงินเข้มขึ้นเรื่อยๆ ที่ตั้งของจุดชมวิวสามอ่าว ริมถนน เส้นที่มุ่งหน้าไปแหลมพรหมเทพ
บรรยากาศดีมากค่ะ ในเเต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเเวะเวียนมาถ่ายภาพ ดิ่มด่ำบรรยากาศมากมาย
นักท่องเที่ยวสามารถขับรถเข้ามาจอดที่จุดชมวิว และเดินขึ้นศาลาจุดชมวิวไปอีกนิดเดียวก็จะเห็นวิวได้ถึง 3 อ่าว มุมถ่ายรูปที่สวยที่สุดอยู่
http://thai.tourismthailand.org/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94/%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%95
https://hdwallpapers.cat/wallpaper_800x600/sunset_over_patong_beach_phuket_sea_rocks_800x600_hd-wallpaper-1865862.jpg
*******************************************************************************************************
บล๊อคที่เขียนอื่นๆ
ธรรมชาติของเด็ก หนังสือของเเม่ เรียนรู้ภาษาจีนวันละคำ
********************************************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น